คนจำนวนมากมักนึกถึงข้อเสียของเกมและไม่อยากให้ลูกเล่นเกม แต่จริงๆ แล้วการเล่นเกมก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีของการเล่นเกม
1. เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์
จากการศึกษาในเด็กวัย 12 ปี พบว่าการเล่นวิดีโอเกมจะทำให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเด็กที่ไม่เล่น เพราะความซับซ้อนของตัวละครและเนื้อหาในเกมยุคใหม่จะส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการแก้ไขปัญหา และนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริงได้
2. เพิ่มทักษะในการมองด้านมิติสัมพันธ์
จากงานวิจัยพบว่าการเล่นเกมจะส่งเสริมการรับรู้ด้านมิติสัมพันธ์ และเพิ่มทักษะที่เป็นเหตุเป็นผลทำให้การเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ดีขึ้น จากงานวิจัยในนักศึกษาวิทยาลัยพบว่าการเล่นเกมเป็นเวลา 25 นาที ก่อนสอบ จะทำให้พวกเขาสอบได้คะแนนดีกว่าการไม่เล่นเกม
3. เพิ่มความสามารถในการเปลี่ยนความสนใจโดยอัตโนมัติ
การเล่นเกมทำให้เด็กมีความสามารถในการเปลี่ยนมุมมองได้อย่างรวดเร็วหรือสามารถเปลี่ยนความตั้งใจให้จดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้อย่างทันทีทันใด ซึ่งช่วยให้เด็กสามารถอ่านหนังสือ ดูแผนที่และแก้โจทย์คณิตศาสตร์ได้ดีขึ้น
ข้อเสียของการเล่นเกม
1. ทำให้เสียสมาธิในการเรียน
งานวิจัยหลายชิ้นพบว่าเด็กที่เล่นเกมเป็นเวลานานจะไม่สามารถจดจ่อกับงานที่ทำหรือการเรียนหนังสือได้ กล่าวคือจะไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียนหนังสือ
2. ผลการเรียนตกต่ำ
จากงานวิจัยในเด็กอายุ 6-9 ขวบ พบว่าเด็กที่เล่นเกมจะใช้เวลากับเกมมากจนมีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เวลาทำการบ้านและการอ่านหนังสือลดลง จนส่งผลเสียต่อระดับการเรียน
3. ปัญหาทางพฤติกรรมจากการเล่นเกมที่มีความรุนแรง
ฉากรุนแรงในเกมมีผลเสียต่อพฤติกรรมของเด็ก โดยมีรายงานยืนยันว่าเด็กที่เล่นเกมที่มีเนื้อหารุนแรงเป็นเวลานานมักจะมีผลการเรียนที่แย่ลง และมีพฤติกรรมก้าวร้าวและมีปัญหามากขึ้น